ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณอะไรบ้าง

ฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร สุดยอดสมุนไพรพื้นเมือง สรรพคุณมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แก้หวัดต้านไวรัส เจ็บคอ ท้องเสีย มีผลวิจัยรองรับทั้งในประเทศไทย และในระดับโลก ด้วยเหตุนี้จึงนำมาอยู่ในรูปแคปซูล เพื่อให้สะดวกในการรับประทาน พกพาง่าย ในราคาสุดคุ้มเมื่อเทียบกับคุณภาพ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees
วงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่ออื่น : หญ้ากันงู (สงขลา) น้ำลายพังพอน ฟ้าละลายโจร (กรุงเทพฯ) ฟ้าสาง (พนัสนิคม) เขยตายยายคลุม สามสิบดี (ร้อยเอ็ด) เมฆทะลาย (ยะลา) ฟ้าสะท้าน (พัทลุง)

สรรพคุณ     มี 4 ประการคือ

1. แก้ไข้ทั่ว ๆ ไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ 
2.  ระงับอาการอักเสบ  พวกไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ 
3. ***รักษาโรคผิวหนังฝี 
4. แก้ติดเชื้อ พวกทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะลำไส้อักเสบ 
5. เป็นยาขมเจริญอาหารและการที่ฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณ 4 ประการนี้ จึงชวนให้เห็นว่า
   ตัวยาต้นนี้ เป็นยาที่สามารถนำไปใช้กว้างขวางมาก จากเหตุผลที่ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์
   ระงับการติดเชื้อหรือระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้
   ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
          ใบฟ้าทะลายโจร มีสารเคมีประกอบอยู่หลายประเภท แต่ที่เป็นสาระสำคัญในการ
   ออกฤทธิ์ คือ สารกลุ่ม Lactone คือ 

1. สารแอดโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) 
2. สารนีโอแอนโดรกราโฟไลด์ (neo-andrographolide) 
3. 14-ดีอ๊อกซี่แอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-andrographolide)
              
4. ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเก่าแก่ของประเทศจีน ที่ใช้ในการแก้ฝี แก้อักเสบ และรักษาโรคบิด การวิจัยด้านเภสัชวิทยาพบว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้ง เชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเป็นหนองได้ และมีการศึกษาวิจัยของโรงพยาบาลบำราศนราดูร ถึงฤทธิ์ในการรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิด แบคทีเรีย เปรียบเทียบกับ เตตราซัยคลิน ในผู้ป่วย 200 ราย อายุระหว่าง 16-55 ปี ได้มีการเปรียบเทียบระยะเวลาที่ถ่ายอุจจาระเหลว จำนวนอุจจาระเหลว น้ำเกลือ
5. ที่ให้ทดแทนระหว่างฟ้าทะลายโจรกับเตตราซันคลิน พบว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ลดจำนวนอุจจาระร่วงและจำนวนน้ำเกลือที่ให้ทดแทนอย่างน่าพอใจ แม้ว่าจากการทดสอบทางสถิติ จะไม่มีความแตกต่างโดยในสำคัญก็ตาม ส่วนการลดเชื้อ อหิวาตกโรคในอุจจาระ ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ผลดีเท่าเตตราซัยคลิน นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลชุมชนบางแห่งได้ใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาอาการเจ็บคอได้ผลดีอีกด้วย มีฤทธิ์เช่นเดียวกับเพ็นนิซิลินเมื่อเทียบกับยาแผนปัจจุบัน เท่ากับเป็นการช่วยให้มีผู้สนใจทดลองใช้ยานี้รักษาโรคต่าง ๆ มากขึ้น

มีข้อควรระวังนะคะ

1. ฟ้าทะลายโจร เหมาะสำหรับอาการไม่สบาย เป็นไข้ “ร้อน” หมายถึง ตัวร้อน เจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ เหงื่อออก ท้องผูก ปัสสาวะสีเข้ม น้ำมูกเหนียวข้น ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นไข้แบบ “เย็น” หรือที่มีอาการอุ้งมืออุ้งเท้าเย็น ปัสสาวะปริมาณมาก หรือมีอาการหนาวสั่นมากกว่าปกติ น้ำมูกย้อยใส

2. ไม่ควรทานยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้มีอาการข้างเคียง หรือภาวะเย็นเกิน (คะเลี้ยง ภาษาแต้จิ๋ว) เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาอ่อนแรง หนักแขนหนักขา เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว จากประสบการณ์ตรง และทดสอบด้วยตัวเองมานาน จึงไม่ควรทานฟ้าทะลายเกิน 10 วัน เป็นระยะที่ปลอดภัย อาจยืดหยุ่นต่อได้อีก 5 วัน ซึ่งหากทานไป 3 วันแล้วอาการต่าง ๆ ยังไม่ดีขึ้น เช่น เจ็บคอมากขึ้น ให้เพิ่มมื้อยา แต่ลดจำนวนเม็ดยาแทน ต้องฝึกสังเกตตนเองและเรียนรู้การใช้ยา ตั้งแต่มื้อแรกที่รับประทานยาทุกชนิด ไม่เพียงใช้ยาตามข้อมูล

3. ฟ้าทะลายโจร ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันต่ำ เพราะฟ้าทะลายโจรมีคุณสมบัติช่วยลดความดัน

4. สตรีมีครรภ์ และสตรีที่กำลังให้นมบุตร ไม่ควรทานฟ้าทะลายโจร เพราะอาจส่งผลต่อเด็กได้ มีสมุนไพรตำรับเฉพาะสตรีมีครรภ์

5. บางข้อมูลบอกว่า อาจมีอาการแพ้ยา หรือมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ได้ เช่น ผื่นขึ้น ปากบวม หน้าบวม ตัวบวม หากแพ้มาก ๆ อาจเป็นภูมิแพ้เฉียบพลัน อาจทำให้ช็อคถึงขั้นเสียชีวิต จากประสบการณ์ส่วนตัวยังไม่เคยพบ

ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรแท้ ๆ หรือยาปฏิชีวนะ ล้วนมีข้อจำกัดในการใช้ที่แตกต่างกัน แม้แต่อาหาร รับประทานทุกมื้อ ร่างกายยังต่อต้าน แสดงอาการ รู้สึกคลื่นไส้เมื่อได้กลิ่น หรือแค่มองเห็น

สรุป ใช้ฟ้าทะลายโจร เมื่อเกิดอาการป่วย เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลารับยา ไม่สามารถรับประทานเพื่อป้องกัน สมุนไพรไทยที่ใช้ป้องกัน มักอยู่ในรูปของยาอายุวัฒนะ ส่วนยาที่ใช้บำบัดรักษาโรคไข้พิษ จากการรับเชื้อไวรัสต่าง ๆ แพทย์แผนโบราณมีองค์ความรู้นี้มานับพันปี และใช้ช่วยควบคุมโรคติดเชื้อ ระบาดรุนแรง มาแล้วหลายยุค หลายสมัย เราเคยเห็นในหนังในละคร ซึ่งมีส่วนที่เป็นเรื่องราวจริง ๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ไทย พระคัมภีร์แพทย์เกี่ยวกับโรคระบาดนี้ คือ สมุนไพรสำหรับ ไข้เหนือ ไข้พิษ ไข้กาฬ ไข้หวัดน้อย ไข้กำเดาน้อย ไข้กำเดาใหญ่ ซึ่งแพทย์แผนไทยใช้ได้ผลมาแต่ยุคโบราณถึงปัจจุบัน คือ พระคัมภีร์แพทย์ตักศิลา แล้วจะค่อย ๆ ให้ข้อมูล ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ในการใช้จริงมาเล่าต่อให้เข้าใจ ถึงที่มา ที่ไป วิธีป้องกัน และ รักษา ตามทัศนะของแพทย์แผนไทย